เมื่อมีการนำเอากฎระเบียบ ISPM 15 มาใช้เพิ่มมากขึ้น Premier เห็นว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ผู้ส่งออกจะต้องการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายจากการขนส่ง พาเลทไม้ที่มีราคาแพงขึ้น และตอนนี้สามารถจัดให้มีวิธีการหลายอย่างมากมายในการจัดการสินค้าเข้ามาในคอนเทนเนอร์ แบบไร้พาเลท

การส่งสินค้าบนพาเลทไปยังจุดหมายปลายทางที่มีการแฮนด์บอลออกนั้นยังคงต้องใช้ค่าใช้จ่ายมาก ประโยชน์เพียงอย่างเดียวคือความสะดวกในการบรรทุกในช่วงแรก หากตอนนี้พาเลทต้องสอดคล้องกับกฎระเบียบ ISPM15 แล้ว ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมานี้เองที่จะเป็นเหตุผลที่ดีที่ต้องมองหาทางเลือกอื่น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในส่วนของไม้ก็จะเป็นเหตุผลเสริมอีกด้วย

ระบบการจัดการสินค้าแบบไร้พาเลทแบบเดิมนั้น ประกอบด้วยอินเวอร์เตอร์ 180 องศา ที่มีที่กดบนผนังด้านข้าง พาเลทถูกยึดไว้และของบรรทุกถูกพลิกกลับด้าน รถบรรทุกที่มีที่กดอยู่ด้วย และมี platen ที่กว้าง ได้รับของบรรทุกจากด้านหนึ่ง และขับไปที่คอนเทนเนอร์เพื่อเอาของบรรทุกออก ขณะเดียวกันระบบก็จะพลิกกลับด้านพาเลทที่ว่างเปล่าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อส่งมันไปที่ด้านตรงข้าม และกองซ้อนขึ้นไป

ทางเลือกอื่นที่ง่ายกว่า คือ การให้โครงที่ยกสูงขึ้นไปที่โต๊ะตัวหนึ่งของอินเวอร์เตอร์ ทำให้สามารถเข้าถึงได้โดยรถบรรทุกแบบ multi-tyne และติดกับกรรไกรกดเพื่อปล่อยของบรรทุกออก

ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่จัดการโดยใช้เครื่องของ Premier นั้น ไม่ว่าจะเป็น นมผงในไอร์แลนด์ น้ำตาลในอังกฤษ หรือปลาบรรจุกล่องในฮอลแลนด์ เพื่อส่งไปยังประเทศกลุ่มโลกที่สามที่ที่พบได้บ่อยว่า สินค้าจะหลุดออกจากคอนเทนเนอร์ อย่างไรก็ตาม Premier ก็จะแปลกใจมากว่า การเดินทางแบบนี้จะได้มากเพียงใดหากไปยังสหรัฐ และตลาดที่อยู่ระดับบนอื่น ๆ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายจากค่าแรงที่จุดปลายทางนั้นถูกกว่าการประหยัดพื้นที่ พาเลท หรือวิธีการอื่น ๆ ในการบรรทุกด้วยมือในจุดต้นทาง

อีกแนวคิดหนึ่งที่ประกอบเสริมการใช้อินเวอร์เตอร์ของ Premier ก็คือ rollerForks ที่สร้างโดยชาวดัตช์ รถยกแบบเก่านั้นจะมี tyne ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสอง หรือสาม หรือสี่ชุด ซึ่งจะมี roller เล็ก ๆ เป็นคู่อยู่ ของที่บรรทุกที่ไม่รวมพาเลทนั้น ถูกนำออกจากจากโต๊ะของอินเวอร์เตอร์ และขับเคลื่อนไปที่คอนเทนเนอร์ เมื่อรถบรรทุกกลับด้าน roller ก็จะทำงานในทิศทางตรงกันข้าม ชุดหนึ่งไปด้นหลังบนพื้นคอนเทนเนอร์ อีกชุดทำให้ผลิตภัณฑ์กลิ้งไปข้างหน้า ไปสู่ตำแหน่ง

ด้วยระบบต่าง ๆ เหล่านี้เอง ผู้ผลิตจึงได้รับประโยชน์จากการใช้แบบพาเลทแบบเก่าในองค์กร และเลือกที่จะตัดสินใจในนาทีสุดท้ายว่าผลิตภัณฑ์ใดที่จะทำการส่งออกและจะใช้วิธีการใด ความยืดหยุ่นนี้คือกุญแจสำคัญในการประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าในรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ